แก้ไข ยิ้มเห็นเหงือก แก้ไขโดย ” ปรับกล้ามเนื้อยกริมฝีปากบน Lip repositioning “

หลายคนสงสัย ใช่มั้ยคะ ว่า แก้ไข ยิ้มเห็นเหงือก โดยวิธีปรับกล้ามเนื้อที่ใช้ในการยกริมฝีปากบน เป็นยังไง และคุณหมอจะเลือกวิธีนี้ สำหรับเคสแบบไหน ?

หมอมักจะเลือก แก้ไข ยิ้มเห็นเหงือก โดยวิธี Lip repositioningในรายที่เวลายิ้มแล้ว ริมฝีปากบนดูหดรั้งขึ้นมาก จากกล้ามเนื้อที่ยกตัวขึ้นแรงค่ะ ส่วนใหญ่แล้ว จะพบในกลุ่มคนไข้ที่ยิ้มเห็นเหงือกค่อนข้างเยอะ หรือกลุ่มที่สัดส่วนของฟันสมบูรณ์แล้ว ไม่ดูสั้นเกินไป แต่เวลายิ้มยังดูเห็นเหงือกอยู่ หรือคนไข้บางคน ยิ้มเห็นเหงือก เกิดได้จากทั้งคอฟันสั้น และกล้ามเนื้อที่ยกริมฝีปากบนหดตัวแรง ( ย้อนไปดูว่า ยิ้มเห็นเหงือก มีสาเหตุได้กี่แบบ ทางนี้นะคะ )

จริงๆแล้วกล้ามเนื้อที่ยกริมฝีปากบน มีหลายมัดเลยนะคะ ทั้งมัดใหญ่มัดเล็ก ทำหน้าที่หลากหลายกันไป บางมัดแค่ดึงริมฝีปากบนขึ้น บางมัดทำหน้าที่ยกมุมปากขึ้นด้วย

แก้ไข ภาวะยิ้มเห็นเหงือก หมอจะไปปรับแต่มัดเล็กๆที่ทำแต่หน้าที่ยกริมฝีปากขึ้นค่ะ ดังนั้นไม่ต้องกลัวเลยนะคะ ว่ายิ้มแล้วมุมปากจะตก
lip repositioning แก้ไขยิ้มเห็นเหงือก

จากรูปจะเห็นได้ว่า มีกล้ามเนื้อมัดเล็กๆที่ดึงริมฝีปากขึ้น

ช่วงขั้นตอนผ่าตัด หมอจะทำการตรวจเช็คว่า กล้ามเนื้อมัดไหนที่ทำหน้าที่ ยกริมฝีปากขึ้น หมอก็จะเข้าไปปรับกล้ามเนื้อตรงมัดนั้นค่ะ ให้ทำงานน้อยลง ดังนั้นเวลายิ้ม ริมฝีปากบนก็จะไม่ถูกดึงรั้งมากขึ้น

ศัลยกรรมปรับกล้ามเนื้อยกริมฝีปากบน ( Lip repositioning ) ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 45 นาที ถึง 1ชั่วโมง

ศัลยกรรม ปรับกล้ามเนื้อยกริมฝีปากบน ( Lip Repositioning ) มักจะเลือกสำหรับคนไข้ที่ สัดส่วนของกระดูกใบหน้าส่วนกลางยาวกว่าปกติเล็กน้อย ( mild vertical maxilaary excess) หรือกลุ่มที่มีการรั้งของริมฝีปากบนค่อนข้างมาก (สังเกตได้จากตอนยิ้ม )

ในบางรายอาจทำร่วมกับการร่นคอฟัน(crown lengthening)ได้นะคะ โดยเฉพาะในรายที่มีทั้งเหงือกยาว และกล้ามเนื้อที่ยกริมฝีปากหดรั้งมากเกิน ถ้าทำศัลยกรรม ทั้งสองอย่างในคราวเดียวกัน ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 2ชั่วโมง

เปรียบเทียบก่อนและหลัง แก้ไขปัญหายิ้มเห็นเหงือก โดยวิธี Lip repositioning

จากวีดีโอ คลิปด้านล่าง จะเห็นเปรียบเทียบ รูปก่อนและหลังทำ Lip repositioning ยิ้มแล้วเห็นเหงือกน้อยลงเลยใช่มั้ยคะ

วิธีนี้ หลังผ่าตัดอาจจะรู้สึกตึงๆ ที่ริมฝีปากบน หรือยิ้มแล้วตึง ยิ้มไม่เป็นธรรมชาติ ในช่วง 1-2เดือนแรกนะคะ หลังจากนั้น ร่างกายจะปรับตัวได้ จะยิ้มเป็นธรรมชาติ

บางท่านอาจสงสัยว่า ยิ้มแล้วตึง นี่คือ ยิ้มไม่ได้เลยใช่หรือไม่ ? จริงๆไม่ใช่นะคะ หลายท่านที่ทำศัลยกรรมไปแล้ว บอกว่า ยิ้มแล้วอาจรู้สึกฝืนๆ เท่านั้นค่ะ และสามารถพูดคุยได้ตามปรกติ

หมออยากย้ำอีกเรื่องคือ ในบางรายที่ก่อนทำศัลยกรรม เห็นเหงือกเยอะมากกก ^^ หลังทำศัลยกรรม จะยังเห็นเหงือกบางส่วนนะคะ ไม่ใช่หายไปหมดเลย และบางรายมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำ ( แต่ไม่ได้กลับมาเหมือนก่อนผ่าตัดนะคะ )

การเตรียมตัวก่อนศัลยกรรม ปรับกล้ามเนื้อยกริมฝีปากบน เพื่อแก้ไข ยิ้มเห็นเหงือก

  • เข้ามาพบ ปรึกษาคุณหมอก่อนผ่าตัด เพื่อวางแผนการรักษา ( ยิ้มเห็นเหงือก มีวิธีแก้ไข หลายวิธีค่ะ แนะนำว่าควรเข้ามาปรึกษาก่อนนะคะ เพื่อที่คุณหมอจะเลือกวิธีที่เหมาะสม ในแต่ละราย )
  • วางแผนหาช่วงเวลาพักผ่อนให้ดี จริงๆ หลังทำศัลยกรรม ไม่ได้บวมมากค่ะ เพียงแต่รู้สึกตึง กะ อาจจะ ยิ้มได้ไม่ธรรมชาติ
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 6-8ชั่วโมง ก่อนทำการศัลยกรรม
  • งด วิตามิน อาหารเสริม ยาบำรุง สมุนไพร กลูต้าไธโอน คอลลาเจน นมผึ้ง ก่อนผ่าตัด อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพราะว่า อาหารและวิตามินเหล่านี้ มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
  • วันทำศัลยกรรม สามารถขับรถมาได้นะคะ หรือมาคนเดียวได้ เป็นผ่าตัดเล็ก ใช้ยาชา ( local anesthesia ) ระหว่างทำผ่าตัด

การดูแลหลังทำศัลกรรม ปรับกล้ามเนื้อยกริมฝีปากบน

  • ประคบเย็นน้ำ น้ำแข็ง หรือ เจลเย็น cool pack วางบนริมฝีปากบน ความเย็นช่วยเรื่องลดบวมได้
  • นอนศรีษะสูง อาจใช้หมอน 2-3ใบหนุน เพื่อทำให้ไม่บวมไม่ช้ำนาน
  • งดแปรงฟันในช่วง 3วันแรก
  • บ้วนปากบ่อยๆ ด้วยน้ำเกลือ หรือน้ำต้มสุก , น้ำยาบ้วนปากC-20
  • รับประทานอาหารอาหารเหลว พวก soup , โจ๊ก ในช่วง3-5วันแรก
  • ใช้แปรงสีฟัน ที่หัวแปรงขนาดเล็ก เช่นแปรงสีฟันเด็ก และใช้ยาสีฟันที่ไม่มี เมนทอล ( เช่นยาสีฟันสมุนไพร )เวลาแปรงฟันจะได้ไม่แสบแผล

หากมีข้อสงสัย หรือสนใจเรื่องยิ้มห็นเหงือกเพิ่มเติม สามารถติดตามได้ที่ เพจหมอกัมมี่ นะคะ

Categories

Follow by Email
Instagram