PRP เกล็ดเลือด มหัศจรรย์

PRP Platelet Rich Plasma คือ สารที่ได้จากการสกัดplasma(เลือดของเรา) บางคนก็เรียกเกล็ดเลือดที่มีความเข้มข้นสูง ซึ่งสูงกว่าในเลือดปกติ 5 เท่า

เริ่มอธิบายตั้งแต่แรกเริ่มก่อนนะคะ ว่า เกล็ดเลือด มายังไง คงต้องเริ่มจาก เลือดปกติของคนเรา ประกอบไปด้วย พลาสม่าเหลว เซลล์เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาวและเกล็ด เลือด เวลามีบาดแผล ก็จะมีเลือดออก เลือดที่ออกมานั้น จะมีส่วนประกอบของเกล็ดเลือด (Platlete) อยู่ด้วย เกล็ดเลือดจะทำหน้าที่ให้เลือดแข็งตัว ให้เลือดหยุดไหล นอกจากนี้ เกล็ดเลือดยังหลั่งสารอื่นๆที่ช่วยในการสร้างเซลล์ใหม่ และกระตุ้นการหายของแผลด้วย สารดังกล่าวประกอบไปด้วย เช่น VEGF, PDGF, FGF, EGF, TGF-B

ฟังชื่อแล้วอาจจะมึนไปเลยใช่มั้ยคะ ??อย่าคิดมากค่ะ เอาเป็นว่าสารเหล่านี้ ช่วยในเรื่อง กระตุ้นเส้นเลือดเล็กๆให้มางอกใหม่ กระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ หรือแม้แต่สลายcollagenเก่าและกระตุ้นการสร้างcollagenขึ้นมาใหม่

เห็นข้อดีของ เกล็ดเลือดแล้วใช่มั้ยคะ ต่อมาถ้าเราสามารถแยกแต่เกล็ดเลือดและน้ำเลือดมาใช้ โดยที่เอาเม็ดเลือดแดงออกไป ก็จะเรียกว่า PRP ( Platelet Rich Plasma )

วิธีการเตรียมเกล็ดเลือดเข้มข้น(PRP)

  1. เจาะทำการเจาะเลือด ประมาณ 20-25 CC
  2. เติมสารกันเลือดแข็งตัว ส่วนใหญ่แล้วจะใส่สารกลุ่ม citrate
  3. นำเข้าเครื่องปั่นด้วยรอบการปั่นและระยะเวลาในการปั่นที่เหมาะสม
PRPคืออะไร

4.ใส่สารactivation ส่วนใหญ่จะเป็นสารในกลุ่ม calcium เช่น calcium cholride , calcium gluconate

จะเห็นได้ว่าน้ำเลือดplasmaที่เรานำไปปั่น จะแยกออกมาเป็น3ชั้น คือ ชั้นล่างสุดคือเม็ดเลือดแดง อีกสองชั้นจะเป็นเกล็ดเลือดและเม็ดเลือดขาว ซึ่ง 2ชั้นที่เหลือนี่ เราจะนำมาใช้ในการฉีดเข้าไปในคนไข้

PRP Platelet rich plasma คืออะไร
photo credit : PRS Journal ; Jan 2021

ดังนั้น PRP(Platelet Rich Plasma) จะเป็นส่วนที่ประกอบด้วย น้ำเลือด และ เกล็ดเลือดและมีเม็ดเลือดขาวปนมานิดหน่อย

ประโยชน์ที่ได้จากPRP

Skin Rejuvenation

เพิ่มความอ่อนเยาว์ของใบหน้า ทำให้ใบหน้ากระจ่างใส อันนี้เป็นตัวที่นำมาใช้บ่อยที่สุด ข้อดีของ PRPก็คือไปกระตุ้น การสร้างเซลล์ผิวใหม่ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ดังนั้นจึงทำให้ใบหน้าเราดูเด็ก ดูอ่อนเยาว์ได้ค่ะ เพราะมีการผลัดเซลล์ใหม่

ส่วนใหญ่แล้วจะนำ PRP ที่สกัดได้มาฉีดในชั้นใต้ผิวหนังแบบตื้นๆ หรือแบบสะกิด บางครั้งเอามาใช้ร่วมกับ Microneedle เข็มขนาดเล็กๆ เพื่อสะกิดผิวชั้นบนให้เปิด เพื่อที่จะให้PRPซึมเข้าไปด้านล่าง ผลพลอยได้ก็คือ ไปเพิ่มการสร้างcollagenของผิว ผิวหนังเต่งตึงมากขึ้น สภาพผิวดูกระจ่างใส นอกจากนี้ยังช่วยยกผิวที่เป็นโพรงที่เป็นสาเหตุของริ้วรอย หลุม ทำให้ผิวเรียบเนียนเสมอ

Microneedleที่ใช้ร่วมกับ PRPมักจะมาใช้ในการรักษาแผลเป็นจากหลุมสิว ปรับสภาพสีผิว เช่นผิวคล้ำใต้ดวงตา แนะนำให้ทำทุก 4-6สัปดาห์ จะเห็นผลได้ดีควรทำอย่างน้อย 3 ครั้งขึ้นไป

Allopecia รักษาผมร่วง

PRP ช่วยในเรื่องของเพิ่ม cellรากขน ( human dermal papilla cell ) ทำให้ผมงอกขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะใช้ PRPฉีดเข้าไปเดี่ยวๆในชั้นใต้หนังศรีษะ หรือจะใช้ร่วมกับการปลูกผมก็ได้ค่ะ ถ้าใช้ร่วมกับการปลูกผมจะพบว่า ทำให้ รากผมติดมากขึ้น 15 %

ถ้าฉีด PRPอย่างเดียว ต้องฉีดทุก 1สัปดาห์ ถึง 1เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่ปัจจัยแต่ละบุคคล และจะเห็นผลได้ดี 3เดือน ผ่านไปแล้ว

Fat graft หรือ ใช้ร่วมกับการปลูกถ่ายเซลล์ไขมัน

เราจะนำ PRP. มาผสมกับcell ไขมันในอัตราส่วนที่เหมาะสม เพื่อทำการปลูกถ่ายเซลล์ไขมัน ข้อดีของการนำPRPมาใช้คือ PRPจะช่วยกระตุ้นการงอกของเส้นเลือดที่มาเลี้ยงเซลล์ไขมัน ซึ่งจะทำให้เซลล์ไขมันที่เราทำการปลูกถ่ายไปนั้น ติดง่ายและติดทนนานมากขึ้น จากการวิจัยพบว่า การใช้ PRP ร่วมกับ fat cellทำให้เซลล์ไขมันที่ปลูกถ่ายติดมากขึ้น 70%เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ทำการปลูกถ่ายเซลล์ไขมันอย่างเดียว (30%) นอกจากนี้ PRPยังช่วยในเรื่อง การลดบวม ลดช้ำ และทำให้ผิวกระจ่างใสหลังทำการปลูกถ่ายเซลล์ไขมันด้วย

หมอเคยเขียนเรื่อง หลักการในการปลูกถ่ายเซลล์ไขมัน มาครั้งนึงนะคะ ลองย้อนไปอ่านดูได้ ว่าอะไรบ้างที่เป็นปัจจัยทำให้เซลล์ไขมันหลังการปลูกถ่ายติดมากขึ้น

LASER

PRPจะนำมาใช้ควบคู่กะการทำ Laserบริเวณผิวหน้า เช่นใช้คู่กับ Co2 Laser , Erbium Laser มักใช้ในการรักษาแผลเป็นจากหลุมสิว โดยที่จะฉีด PRPเข้าไปในชั้นใต้ผิวหนัง ซึ่งจะช่วยในเรื่องกระตุ้นการสร้างcollagen ทำให้เซลลใหม่ที่ผลัดขึ้นมามีความแข็งแรงและอ่อนเยาว์

นอกจากนี้ PRPยังใช้ในการรักษาข้อเข่าเสื่อม osteosrthrosis , รักษาอาการปวดหลังเรื้อรัง เช่นพวกกลุ่มอาการ Office Syndrome 

เตรียมตัวก่อนฉีด PRP

  • งดวิตามิน อาหารเสริม ยาบำรุงที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เพราะเวลาฉีดPRPจะได้ไม่ช้ำเยอะ และไม่บวมนาน
  • นอนหลับพักผ่อน ให้เพียงพอ ไม่ต้องตื่นเต้นนะคะ
  • งดเครื่องดื่ม alcohol เพราะตอนฉีด PRPอาจทำให้มีเลือดไหลออกเยอะ และจะทำให้บวมช้ำนาน

การฉีด PRPที่ใบหน้า หรือ หนังศรีษะ ใช้ระยะเวลา 30-45นาที แต่ถ้าใช้ร่วมกับการปลูกถ่ายเซลล์ไขมัน ขั้นตอนนี้จะใช้เวลาประมาณ 2ชั่วโมงค่ะ เพราะต้องค่อยๆผสม PRPกะ เซลล์ไขมัน และค่อยๆทำการปลูกถ่ายเซลล์ไขมัน

การดูแลหลังฉีด PRP

  • ดูแลความสะอาดบริเวณที่ฉีด ถ้าเป็นบริเวณใบหน้า ล้างหน้าได้วันรุ่งขึ้น ถ้าเป็นบริเวณหนังศรีษะ สระผมวันรุ่งขึ้น แต่อย่าเกาแค่ลูบเบาๆพอ
  • ถ้าฉีด PRPบริเวณใบหน้า แนะนำงดแต่งหน้า1วัน และหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดยตรง 7วัน

Categories

Leave a Comment

Follow by Email
Instagram