ขอทำความเข้าใจกันก่อนนะคะ ว่า เสริมหน้าอก มีวิธีการทำอย่างไรบ้าง
Breast Augmentation หรือ การเสริมหน้าอก
เสริมหน้าอก คือการใช้วัสดุทางการแพทย์ มาเสริมเพื่อทำให้เนื้อ ขนาด หน้าอกเดิมดูใหญ่ขึ้น ส่วนวัสดุหรือสารที่มาใช้เสริมหน้าอก แบ่งง่ายๆได้ สองกลุ่ม
เสริมหน้าอกโดยใช้เต้านมเทียม ( Breast Implant )
เสริมหน้าอกโดยใช้ไขมันตัวเอง ( Fat transfer )
เต้านมเทียม ( Breast implant)
เสริมหน้าอก สมัยก่อน เต้านมเทียม จะทำจาก ถุงน้ำเกลือ ( saline implant ) แต่ปัจจุบันไม่ค่อยเป็นที่นิยมแล้ว เพราะว่า อาจเห็นได้ชัดถึงรูปทรงของถุง ดูเป็นทรงกลมไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ เนื้อสัมผัสต่างจากเต้านม และเกิดการฉีดขาดได้ง่าย หรืออาจเกิดรอยยับย่นหลังเสริมไปแล้ว
ดังนั้น ปัจจุบันนี้ ในการ เสริมหน้าอก เต้านมเทียมที่นิยมเป็นส่วนใหญ่จะทำมาจาก ซิลิโคน ( silicone implant ) ซึ่งมีข้อดีคือ ดูเป็นธรรมชาติ ให้ความรู้สึกเหมือน หน้าอก จริง และเกิดรอยพับ, รอยเหี่ยวย่นบริเวณ ผิวหนังหลังการเสริมน้อย โอกาสที่ซิลิโคนจะเคลื่อนลงต่ำมีน้อยกว่าแบบถุงน้ำเกลือ หากไม่มีภาวะแทรกซ้อน อาจอยู่กับตัวได้ในระยะยาว แต่มีข้อที่ต้องระวังคือ ถ้า เสริมหน้าอก ไปแล้ว เกิดภาวะถุงซิลิโคนรั่ว และพบว่าพังพืดที่หุ้มรอบถุงไม่แตก อาจจะไม่รู้เลยว่าเกิดการรั่วขึ้น ( ต้องใช้การตรวจ ultrasound หรือ MRI ช่วยถึงเห็นได้)
![เต้านมเทียมแบบ ซิลิโคน ที่ใช้ในการเสริม หน้าอก ถ้ามีการฉีกขาด รูปทรงยังไม่เปลี่ยนแปลงมาก](https://drvituplastic.com/wp-content/uploads/2020/04/breast1.jpg)
จากรูปจะเห็นว่า เต้านมเทียมแบบsiliconeถ้ามีการฉีกขาด รูปทรงจะไม่เปลี่ยนแปลงมาก ตัวsilicone gelยังคงเกาะอยู่
Cr: http://www.cohesiveimplants.com
สรุปง่ายๆข้อแตกต่าง ในการ เสริมหน้าอก ด้วยเต้านมเทียมแบบถุงน้ำเกลือและเต้านมเทียมแบบซิลิโคนมีดังนี้ค่ะ
ตารางเปรียบเทียบเต้านมเทียมที่ใช้ เสริมหน้าอก ระหว่างถุงน้ำเกลือและsilicone
(From : PRS APR 2014; CME Breast Augmentation)
Saline | Silicone | |
รูปทรงภายนอก | เหมือนกัน | เหมือนกัน |
feelingเวลาสัมผัส | อาจคลำได้เป็นถุงเต้านมเทียม | ส่วนใหญ่แล้วจะสัมผัส เหมือนเต้านมธรรมชาติ |
ขอบรอยพันย่น | อาจเห็นได้ | ไม่ค่อยพบ |
โอกาสรั่ว | พบได้5 % | ไม่ค่อยพบ |
โอกาสที่ถุงเต้านมจะแตกโดยที่ มองจากภายนอกไม่ทราบ (silent rupture) | ไม่ค่อยพบ | พบได้บ่อย |
การตรวจติดตาม | ใช้การตรวจร่างกายเป็นหลัก | ใช้MRI ช่วยcheck |
ความนิยม | ไม่ค่อยนิยมแล้ว | นิยมมากกว่า |
รูปทรงของSilicone ที่ใช้ เสริมหน้าอก มีสองรูปแบบ คือ ทรงกลม และ ทรงหยดน้ำ
- ทรงกลม คิดภาพง่ายๆเลยค่ะ ว่าเป็นลูกบอล แบ่งครึ่ง หรือ แตงโมแบ่งครึ่งเนินข้างบนกะข้างล่างจะพอๆกันค่ะ ทรงกลม เหมาะกับสาวๆที่เนื้อเดิมมีมาน้อย แล้วอยากได้เนิน หน้าอก ที่อิ่มขึ้น ชัดเจนขึ้น (พูดง่ายๆคือสาวCup a, b หรือสาวasiaส่วนใหญ่ค่ะ
![ซิลิโคนทรงกลม ที่ใช้ในการเสริมหน้าอก](https://drvituplastic.com/wp-content/uploads/2020/04/silicone2.jpg)
siliconeทรงกลม กับระดับความสูงต่างๆ Cr: mentor
ทรงกลมจะมีหลายความพุ่งนะคะ(projection) พุ่งน้อย พุ่งกลางๆ หรือพุ่งเยอะ ถ้าพุ่งเยอะ ก็จะมีความตู้มเยอะค่ะ หรือเหมาะกับเคสที่ ฐานหน้าอกแคบ แต่อยากได้ ใหญ่นิดนึง ก็ อาจต้องเลือก แบบพุ่งสูงค่ะ
2. ทรงหยดน้ำ
![ซิลิโคนทรงหยดน้ำ ที่ใช้ในการเสริมหน้าอก](https://drvituplastic.com/wp-content/uploads/2020/04/Untitled-3.jpg)
ลักษณะของsilicone จะคล้ายกับหน้าอกธรรมชาติ คือเนื้อซิลิโคนด้านบนจะน้อย และเนื้อซิลิโคนด้านล่างจะมากกว่า
สาวๆบางคนจะเหมาะกับแบบนี้ถ้าชอบสวยแบบธรรมชาติ คือเนินข้างบนน้อยๆ และเนินข้างล่างเยอะ แต่ถ้าต้องการความอึ๋มมากๆ ใส่เสื้อโชว์เนินบ่อยๆ ทรงหยดน้ำอาจจะไม่เหมาะ หรือถ้าเนื้อหน้าอกน้อยมากๆเลย การเลือกทรงหยดน้ำเพื่อ เสริมหน้าอก อาจไม่ได้ให้เนินหน้าอกนะคะ หมอแนะนำทรงกลมค่ะ
ทรงหยดน้ำ เหมาะกับคนที่มีเนื้อหน้าอกเดิมอยู่แล้ว เช่นcup B cup C แต่อยากได้ความเต็มอิ่มของเนิน และดูไม่เว่อร์เกินไป
![ซิลิโคน ทรงกลมและทรงหยดน้ำที่ใช้ในการเสริมหน้าอก](https://drvituplastic.com/wp-content/uploads/2020/04/Untitled-3-1.jpg)
อธิบายง่ายๆจากรูปจะเห็นว่าถ้าใส่ทรงหยดน้ำ จะได้ความสวยแบบธรรมชาติ
แต่ถ้าต้องการความอึ๋ม โชว์เนินนิดๆ ทรงกลมอาจจะตอบโจทย์ได้มากกว่า
ผิวของSilicone
รูปทรงของหน้าอก ผลลัพทธ์ที่ได้ นอกจากรูปทรงซิลิโคนแล้ว ก็จะต้องมาคุยกันในแง่ผิวสัมผัสของซิลิโคนด้วยโดยทั่วไปจะมี2ผิว คือ
- ผิวเรียบ(smooth surface)
- ผิวขรุขระ (texture surface) หรือ ผิวทราย
![](https://drvituplastic.com/wp-content/uploads/2020/04/Untitled-4.jpg)
ทั้งผิวเรียบและผิวขรุขระ สิ่งที่เหมือนกันก็คือ ข้างในเป็นsilicone gelเหมือนกันทั้งคู่ และเปลือกหรือผิว ก็ทำจากSiliconeเหมือนกัน
แต่ต่างกันที่ ผิวเรียบ เปลือกก็จะเรียบไปเลย ส่วนผิวทราย ลักษณะก็จะขรุขระ ออกหยาบๆแบบทรายนิดนึง คิดภาพ ไอติมแมกนั่มแบบมีถั่วเคลือบ กับไม่มีถั่วเคลือบออกมั้ยคะ ไม่มีถั่วก็คิอผิวเรียบ ส่วนมีถั่วผิวทรายค่ะ ข้างใน ก็เป็นไอติมเหมือนกัน ข้างนอกก็เคลือบชอคโกแลตเหมือนกัน 🙂
ที่เป็นแบบนี้ เค้าdesignมาเพราะเชื่อว่า ผิวที่หยาบจะทำให้siliconeยึดติดกับผิวได้ดีกว่าผิวเรียบ และ เกิดพังผืดหดรัดน้อยกว่า และในทรงหยดน้ำ ผิวทรายจะทำให้การเคลื่อนที่ของsilicone น้อย และเกาะกับเนื้อเยื่อได้ดี (ทรงหยดน้ำไม่มีผิวเรียบนะคะ มีแต่ผิวทรายอย่างเดียว)
ส่วนเรื่องพังผืดหดรัด พบน้อยถ้าใช้ผิวทราย อันนี้เป็นความคิดสมัยนานมาแล้วนะคะ แต่ปัจจุบันนี้ ได้พิสูจน์แล้ว ผิวเรียบ และผิวทราย การsetตัว ไม่ต่างกันเลย และถ้าวางsilicone ใต้กล้ามเนื้อ ( submuscular , dual plane )การเกิดพังผืดหดรัด ไม่ต่างกันเลยค่ะ แต่ถ้าเสริมหน้าอกโดยวางsilicone ชั้นใต้เนื้อนม หรือเหนือกล้ามเนื้อ ( sub glandular ) siliconeแบบผิวเรียบ จะมีโอกาสเกิดเยื่อพังผืดหดรัด หรือcapsular contractureมากกว่า ( evidence from : PRS April 2014, CME Breast Augmentation )
Fat transfer
- เป็นการใช้ไขมันของตัวเอง เติมไปในเนื้อหน้าอก เพื่อเพิ่มขนาด ตำแหน่งที่เอาไขมันไปวาง เราจะวางเหนือกล้ามเนื้อค่ะ ส่วนไขมันที่ดูดนั้น ส่วนใหญ่ จะเอาจาก ท้อง เอว หรือ ขา ไม่เหมาะกับคนที่ น้ำหนักน้อยมากนะคะ เพราะหมอก็ไม่รู้จะไปหาไขมันมาเติมให้ได้จากที่ไหน และ ต้องทำใจนะคะ ว่าหลังจากเติมไปแล้ว มันจะมีการยุบซัก30-40% ค่ะ ส่วนใหญ่ หมอแนะนำเติมในเคสที่ เสริมมาแล้วแต่อยากได้เนินหน้าอกเพิ่มขึ้น หรืออยากได้ขนาดหน้าอกที่ไม่ใหญ่มาก หรือทำในเคสที่เสริมหน้าอกและเติมไขมันเพิ่มบริเวณเนิน โดยเฉพาะด้านใน ไปในครั้งเดียวกัน (Hybrid Breast Surgery)
สรุปอีกครั้ง ก่อนจากกันนะคะ
เต้านมเทียม มีสองแบบ
1. ถุงน้ำเกลือ: ไม่เป็นที่นิยมแล้ว
2. Silicone : ใช้กันบ่อยในปัจจุบัน
Silicone เราจะพูดกัน 3หัวข้อ
1. รูปทรงอะไร ( ทรงกลมหรือหยดน้ำ)
2. ผิวของ siliconeว่าเป็นผิวเรียบ
หรือ ผิวทรายขรุขระ
3. ความพุ่ง ในกรณีที่เป็นทรงกลม
Categories
พญ. วิทูสินี อยู่ดี
Plastic Surgeon / World Traveller / Disney Lover / Arte e Amore nel Rinascimento Italiano